ที่จังหวัดกาญจนบุรี นอกจากจะเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติแล้ว อีกหนึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม คือ การท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ เนื่องจากที่กาญจนบุรี เป็นจังหวัดสำคัญที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง หนึ่งในนั้นก็คือ ปราสาทเมืองสิงห์ เมืองโบราณที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำแควน้อย หากคุณชื่นชอบการท่องเที่ยวสไตล์นี้ ปราสาทเมืองสิงห์ กาญจนบุรี ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำ
ประวัติความเป็นมาของอุทยานปราสาทเมืองสิงห์
ปราสาทเมืองสิงห์ กาญจนบุรี เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธศาสนสถานในพุทธศาสนา นิกายมหายาน บริเวณด้านในมีสถาปัตยกรรมและประติมากรรม ที่มีความคล้ายคลึงในช่วงสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์นักสร้างปราสาทแห่งขอม จากการขุดที่บริเวณปราสาท กรมศิลปากรได้พบกับศิลปกรรมที่สำคัญทางประวัติศาสตร์จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น พระพุทธรูปนาคปรก, พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร, นางปรัชญาปารมิตา และยังพบรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ที่มีลักษณะคล้ายกับที่พบเจอในประเทศกัมพูชาด้วย นอกจากนี้ตามศิลาจารึกปราสาทพระขรรค์ เมืองพระนคร ประเทศกัมพูชา ที่มีการจารึกโดย พระวีรกุมาร พระราชโอรสของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้มีการจารึกชื่อเมืองทั้ง 23 เมือง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงสร้างเอาไว้ หนึ่งในนั้นมีเมือง “ศรีชัยสิงห์บุรี” ซึ่งเป็นเมืองที่มีการสันนิษฐานกันว่า คือ ปราสาทเมืองสิงห์ นั่นเอง
โบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
หากเข้ามาที่บริเวณภายในของอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับ QR Code หลากหลายภาษา ไม่ว่าจะเป็น ภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ, ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาญี่ปุ่น และภาษาจีน เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมและได้ข้อมูลเกี่ยวกับโบราณสถานต่างๆ อย่างครบถ้วน แต่เพื่อเพิ่มอรรถรสก่อนเดินทางมาเที่ยวที่ ปราสาทเมืองสิงห์ เราได้รวบรวมข้อมูลโบราณสถานสำคัญในประวัติศาสตร์ ภายในอุทยานแห่งนี้ มาเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้แก่นักท่องเที่ยวดังนี้
โบราณสถานหมายเลข 1
โบราณสถานหมายเลข 1 เป็นส่วนที่สมบูรณ์ที่สุดของปราสาท โดยบริเวณนี้เป็นบริเวณที่มีการก่อด้วยศิลาแลง ภายในประดิษฐานพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี มีพระกร 8 กร ที่บริเวณถัดไปทางซุ้มประตูโคปุระด้านหลังของปรางค์ประธาน จะมีรูปเคารพพระนางปรัชญาปารมิตาอยู่ และที่บริเวณใกล้ๆ ปรางค์ประธาน มี “บรรณาลัย” ซึ่งเป็นที่เก็บคัมภีร์ของพุทธศาสนาในสมัยนั้น
โบราณสถานหมายเลข 2
โบราณสถานหมายเลข 2 จะตั้งอยู่ที่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ของโบราณสถานหมายเลข 1 ใน ปราสาทเมืองสิงห์ ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับโบราณสถานหมายเลข 1 โดยจะมีปรางค์ประธาน โคปุระ 4 ด้าน อีกทั้งยังเป็นสถานที่ ที่มีการขุดพบเทวรูปด้วย
โบราณสถานหมายเลข 3
โบราณสถานหมายเลข 3 นี้ จะเป็นโบราณสถานที่อยู่บริเวณด้านนอกของกำแพงแก้ว โดยลักษณะของที่นี่ จะมีลักษณะเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดเล็ก ที่มีการสร้างด้วยอิฐและศิลาแลง ซึ่งทางกรมศิลปากรได้มีการสันนิษฐานว่าเป็นเจดีย์ 2 องค์
โบราณสถานหมายเลข 4
โบราณสถานหมายเลข 4 ใน ปราสาทเมืองสิงห์ จะมีลักษณะเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยจะตั้งเรียงกัน 4 ห้อง เป็นแถวแนวเหนือใต้ ซึ่งโบราณสถานแห่งนี้จะมีการใช้ศิลาแลงเป็นวัสดุสำคัญในการก่อสร้างเช่นเดียวกัน
สรุปบทความ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะมาเที่ยวชมความงาม และต้องการที่จะศึกษาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ของ ปราสาทเมืองสิงห์ กาญจนบุรี อย่างละเอียด สามารถเดินทางมาเที่ยวที่นี่ได้ทุกวัน โดยอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. และนอกจากปราสาทแห่งนี้ ที่จังหวัดกาญจนบุรียังมีสถานที่ท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง
แนะนำนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักที่ ริเวอร์แคว จังเกิ้ลราฟท์ (River Kwai Jungle Rafts) รีสอร์ทริมน้ำกาญ ชื่อดังของเมืองกาญ ที่มีกิจกรรมใกล้ๆ รีสอร์ท อย่างการ เยี่ยมชมถ้ำละว้า, เข้าชมพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด และเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของโลกที่ช่องเขาขาด หรือช่องไฟนรก ที่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายมรณะ รับรองเลยว่า การเข้าพักที่ริเวอร์แคว จังเกิ้ลราฟท์ (River Kwai Jungle Rafts) นอกจากความสะดวกสบายแล้ว คุณจะเพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ และสนุกไปกับการเที่ยวในสถานที่สำคัญต่างๆ ในจังหวัดกาญจนบุรีแน่นอน